วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กิมจิ : Kimchi


กิมจิ : Kimchi

  

เกิดจากการอยากกินแต่ไม่อยากซื้อเค้ากิน มันแพง.......เลยท่องเนท ตระเวณหาสูตรมาจนได้  เป็นสูตรของคุณมันจิ สาวเกาหลีที่ได้แบ่งปันสูตรของชาวเกาหลีแท้ๆให้ได้ลองทำกันค่ะ  ตาจะลงสูตรเต็มของต้นฉบับให้และลงสูตรที่ทำครั้งนี้ให้ในวงเล็บค่ะ ครั้งนี้ ทำแค่ 1/4 ของสูตรเท่านั้นค่ะ กลัวออกมาไม่เป็นกิจิ เลยลองหัดทำแค่นี้ก่อน คล่องแล้วค่อยว่่ากัน 
ตาขอแบ่งส่วนผสม เป็น 3 ส่วนนะคะ
ส่วนที่ 1 เป็นส่วนของผักที่จะใช้ทำ
1. ผักกาดขาว  4.6 กก.   (ตาใช้  1.2 กก. เป็นผักกาดขาว ผักกาดเขียว และไชเท้ารวมๆกันค่ะ)
2. เกลือ   1 ถ้วย (ของตาทำแค่ 1/4 ถ้วย)
ส่วนที่ 2 เป็นส่วนประกอบของน้ำหมักกิมจิ ส่วนที่ 1
1. แป้งข้าวเหนียว  1/2 ถ้วย (ตาใช้  2 ชต.)
2. น้ำสะอาด 3 ถ้วย  (ตาใช้ 3/4 ถ้วย)
3. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย (ตา ใช้ 1ชต.)
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนของน้ำหมัก ส่วนที่ 2
1. น้ำปลา  1 ถ้วย   (ตาใช้ 1/4 ถ้วย)
2. กระเทียม 1 ถ้วย   (1/4 ถ้วย)
3. ขิง 2 ชต. (อันนี้กะๆ เอา ใช้ประมาณหัวแม่มือไม่ได้ใช้หมดตามรูปที่โชว์อยู่นะคะ)
4. หอมใหญ่ 1 ถ้วย  (ใช้ไป 1 หัวอั้นนี้เกินสูตร แฮะๆขี้เกียจเหลือไว้เีสียดายของ )
5. ต้นกระเทียม  2 ต้น (ไม่มีไม่ได้ใส่ค่ะ)
6. ต้นหอม  10 ต้น (ใส่ไป 4 ต้น)
7. แครอท 1/4 ถ้วยม (ใช้ไป 1/2 หัวอันนี้เก็เกิน)
8. พริกป่นเกาหลี 2 1/2 ถ้วย (ใช้ไป 1/3 ถ้วยอันนี้ตามชอบนะคะ  เจ้าของสูตรบอกว่า ใช้ 1-2 1/2 ถ้วยแล้วแต่ชอบเผ็ดมากหรือน้อยค่ะ แต่ใส่ไปขนาดนี้ยังไม่เผ็ดเลย คิดว่าถ้าใครชอบเผ็ดแอบเติมพริกป่นไทยน่าจะเผ็ดขึ้นแน่นอน อัตราส่วนต้องไปหาเอาเองนะคะ)
 รูปนี้คือวัตภุดิบทั้งหมด
ส่วนที่ 2
  ส่วนที่ 3
 
ส่วนประกอบน้ำหมักทั้งหมด อุ้ยลืมพริกป่นเกาหลีล่ะ 555
 
เรามาเริ่มทำกันดีกว่า ขั้นแรกก็ต้องล้างผักค่ะ ผักกาดเขียวก็เด็ดเป็นใยๆ แช่นน้ำไว้
ผักกาดขาวก็เอามาแบ่ง 4 แล้วหั่นเป็นท่อนๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ล้างน้ำให้สะอาด แล้วเอามาพักไว้ให่้สะให้สะดเด็ดน้ำ (มีเน่าในด้วย)
อันนี้ไชเท้าแอบเพิ่มเอง (ตามสูตรเค้าใส้แต่ในส่วนของน้ำหมักเท่านั้นค่ะ) 
แล้วแบ่งใส่ทีละน้อย โรยเกลือลงไปเคล้าให้เข้ากัน ทำจนหมดผักแล้วพักไว้ทั้งหมด 2 ชั่วโมง หรือมากกว่าก็ได้ค่ะ  คอยมากลับผักจากล่างขึนบนทุกๆ ครึ่งชม.
ช่วงพักเราก็เทน้ำใส่หม้อ ตามด้วยแป้งข้าวเหนียว คนให้แป้งละลายก่อน ค่อยเอาไปตั้งไฟ ต้มแป้งจนสุก คนตลอดเวลา ไม่งั้นไหม้ติดหม้อไม่รู้ด้วยนะ
พอแป้งเริ่มสุกใส ลดไฟลง เทน้ำตาลใส่ลงไปคนจนน้ำตาลทรายละลายเข้ากัน ประมาณ 1 นาที
เสร็จแล้วยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น
แล้วเราก็มาปั่น กระเทียม ขิง หอมใหญ่ และน้ำปลาเข้าด้วยกันจนละเอียดดี  (ลืมบอกไปแบ่งหอมใหญ่เป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเอามาปั่น อีกส่วนหั่นเป็นเส้นๆ
ได้ออกมาหน้าตาประมาณนี้
ครึ่งชม. ผ่านไปก็มาพลิกผักจากล่างขึ้นบน ผักเริ่มยุบ น้ำเริ่มเยอะขึ้น น้ำผักออกมาเองนะไม่ได้ใส่น้ำ รอจนครบเวลา ก็เอาผักออกมาเทน้ำทิ้งแล้วล้าวน้ำสะอาด 3-4 เที่ยวเพื่อให้ผักลดความเค็มลง
หั่นแครอท ต้นหอม ต้นกระเทียม (ถ้ามี) ไชเท้าเป็นเส้นๆ พักไว้
พอแป้งเย็นได้ที่แล้ว ก็จัดการเทขิง กระเทียม หอมใหญ่ ที่ปั่นไว้แล้วเทลงชามผสม เติมแป้งเปียกลงไป ตามด้วยพริกป่นเกาหีล (ที่แม็คโครก็มีขายค่ะ) คนให้เข้ากัน เติมผักที่ซอยเป็นเส้นๆไว้ใส่ลงไปคนให้เข้ากัน แล้วชิมรสได้ค่ะ สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ เผ็ด เค็ม
หมักผักกับเกลือครบ 2 ชม. ก็เทน้ำทิ้งเอาออกมาล้างบีบน้ำออกให้หมด แบ่งใส่ชามผสมอีกใบตักผักใสลงไป ตามด้วยน้ำหมักขย้ำให้เข้ากัน ทำซ้ำจนหมดแล้วบรรจุใส่กลอ่งที่เตรียใมไว้ อย่าให้เหลือช่องว่างเยอะพยายามใส่ผักลงไปให้เต็ม
รูปข้างล่างแอบใส่กะปิลงไปหน่อย แทนปลาหมึก กุ้งเคยดอง อยากรู้ว่ารสชาดจะเป็นอยาสงไร
ขย้ำจนเข้ากันดีแล้วก็เก็บใสกล่อง ปิดฝาพักไว้ข้างนอกตู้เย็น 1-2 วัน ถ้าชอบเปรี้ยวก็หมักไว้นานกว่านี้ ใช้วิธีชิมเอา พอได้รสที่ชอบแล้วก็เอาเข้่าตูเย็นทันทีค่ะ
ได้ทั้งหมด เท่าที่เห็นนี่แหละค่ะ
เสร็จแล้วปิดฝาวางไว้  ถ้าใครไม่ชอบแบบเปรีั้้ยวก็เอาเข้าตู้เย้นได้เลยค่ะ จะทำให้ผักดูสดด้วยค่ะ (เค้าบอกมา) แต่เราชอบออกเปรี้ยวเพราะฉะนั้นจงอยู่ข้างนอกตู้เย็นต่อไป 
กำลังรอผลอยู่ค่ะว่าจะ  อร่อยมั้ย
ครบ 2 วัน ยังไม่ค่อยเปรี้ยวเท่าไร แต่เก็บไว้ก่อน 1 กระปุก เผื่อคนไม่ชอบเปรี้ยว ที่เหลือเอาพลาสติแ่รปปิดหน้าปิดฝาทิ้งไว้อีก ครึ่งวันให้มันเปรียวขึ้น 
หลังจากวางทิ้งไว้อีกครึ่งวันก็มีการดันฝาเปิดน้ำกิมจิเิริ่มจะซึมออกมาเลยต้องรีบเก็บเข้าตู้เย็น รสชาดเปรี้ยวตามที่อยากได้่เลยค่ะ 
ปิดฝาสนิท ทิ้งไว้ 
ดันฝาเผยอเลย 
เห็นน้ำกิมจิมั้ย
หรือเป็นเพราะฝาของเราไม่ดี เลยเก็บใส่ถุงพลาสติกก่อนค่อยเอาเข้าตู้เย็น ขี้เกียจเช็ดตู้เพราะไม่รู้ว่าจะมีน้ำกิมจิไหลซึมออกมาอีกหรือเปล่า
นี่ไงโแมหน้ากิมจิของเรา ไม่เค็มเหมือนบางร้าน กำลังอร่อยเลย ยอตัวเองก็ได้ด้วย 5555
 
นิดหนึ่งก่อนจาก เวลาเก็บใส่กล่องต้องอัดให้แน่นๆ อย่าให้มีช่องว่างเหลือเอาแบบปิดฝาเกือบไม่ได้ จะไม่ค่อยมีน้ำกิมจิทะลักล้นออกมาจากกล่องสักเท่าไร ตาลองทำ 3 แบบ คืออัดหลวมๆ น้ำจะล้นออกมาเยอะมาก อีกกระปุกอัดแน่นปิดฝาเกือบไม่ได้มีน้ำออกมาซึมๆ ตามฝาแต่ไม่มาก ส่วนอีกกล่อง อัดไม่เต็มกล่อง แต่เอาพลาสติกแรปปิดหน้าไว้ไม่ให้โดนอากาศแล้วค่อยปิดฝา ก็มีน้ำซึมๆ ออกมาแต่ไม่เยอะเหมือนกันค่ะ (งานนี้ต้องล้างเตาอบเลบ เพราะเอาไปเก้บไว้ในเตาอบไม่ใด้ใส่ถาดรอง น้ำกิมจินองเต็มตู้่เลย 5555) ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
 ขอให้มีความสุขและสนุกกับการทำอาหารนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น