วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ขนมเปียกปูนชาเขียวกะทิสด

ปรับเปลี่ยนจากสูตรของคุณชำนาญจากห้องเก็บสูตรขนมไทยนิดหน่อยค่ะ คือใช้ผงชาเขียวแทนน้ำใบเตยค่ะ จดๆ จ้องๆมานานเพิ่งได้ทำ ทำแล้วก็หวั่นๆ ว่าจะออกมาเป็นแบบไหนกินได้มั้ย สรุปกินได้ เนิ้อขนมเหนียวดี ชอบๆๆ แต่หวานไปหน่อย ครั้งหน้าต้องของลดน้ำตาล แต่เพื่อนๆที่ทำขายกันเค้าบอกว่าอร่อยกำลังดีค่ะ แล้วก็ขายดีอีกต่างหาก ต้นฉบับแท้ๆ เป็นเปียกปูนใบเตยนะคะ มาดูสูตรดีกว่า

ส่วนผสมตัวขนม
1. แป้งข้าวจ้าว  80 กรัม
2. แป้งมัน  20 กรัม
3. แป้งท้าวยายม่อม 20 กรัม
4. น้ำตาลทราย 100 กรัม (ตาใช้ 80 กรัม)
5. น้ำตาลปีบ  100 กรัม ( ตาใช้ 120 กรัม)
6. เกลือ 1/2 ชช.
7. น้ำปูนใส  600 กรัม
8. น้ำกะทิ  200 กรัม
9. น้ำใบเตยคั้นสด  200 กรัม ( ตาตักออก 1 ชต. เปลี่ยนเป็นน้ำร้อน 1 ชต. สำหรับละลายผงชาเขียว 2 ชช.แทนน้ำใบเตย)
10. เนื้อมะพร้าวอ่อน 200-300 กรัม (จะใส่หรือไม่ก็ได้)
11. มะพร้าวขูด .งาขาว งาดำ คั่ว สำหรับโรยหน้าตามชอบ

ส่วนหน้ากะทิ
1. หัวกะทิ  500 กรัม
2. เกลือ 1 ชช.
3. แป้งข้าวจ้าว 1 ชช.

วิธีทำ
1. เทแป้งทั้งหมดลงชามผสม ตักน้ำปูนใสใส่ลงไป แค่พอนวดได้ ไม่ต้องเยอะ ค่อยๆเติม นวดแป้ง นาน 10-15 นาที
2. ใส่น้ำตาลปีบลงไปนวดกับแป้งจนน้ำตาลปีบละลาย
3. ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยน้ำปูนใสที่เหลือ เกลือ กะทิ ใส่ลงไปคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด
4. ใส่น้ำใบเตยลงไป (น้ำชาเขียว ที่เตรียมไว้ กับน้ำเปล่า)คนให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง (หาไม่เจอ เลยกรองด้วยกระชอนตาถี่แทน) ตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน (ถ้าจะใส่)
5. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่กะทะตั้งไฟ  กวนไฟแรงก่อนจนขนมจับตัวเป็นก้อน แล้วลดไฟลงเป็นไฟอ่อนกวนต่อจนข้นเหนียว ใส ต้องกวนตลอดเวลาห้ามหยุดนะคะ ไม่งั้นแป้งจะเป็นก้อนๆไม่เนียน (ความเหนียวของเนื้อขนมขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่่ใช้กวน  ตากวนไป 40 นาที เล่นเอาเมื่อยเลย 55 ไม่รู้กวนนานเกินไปรึเปล่า แต่ชอบขนมเหนียวดีค่ะ)
6. ปิดไฟ เทส่วนผสมลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ จะรองด้วยใบตอง หรือถุงพลาสติกแบบตาก็ได้เกลี่ยหน้าให้เรียบ ตาทำไม่เรียบ 55 ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วค่อยเอามาตัดเป็นชิ้นๆ หรือจะตักใส่ถ้วย ไว้ พอจะกินก็ราดด้วยน้ำกะทิ โรยงา หรือมะพร้าวขูดตามชอบเลยค่ะ

หมายเหตุ : พอเทขนมใส่กะทะ แล้วตายังไม่ได้ตั้งไฟกวนนะคะวางทิ้งไว้ก่อน  ไปคั่วงา และทำหน้าขนมก่อน แล้วค่อยกลับมากวนตัวขนมค่ะ

วิธีทำหน้าขนม
ใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อ (ใช้กะละมังใบเล็กแทน 55) คนให้เข้ากันก่อน ให้แป้งแตกตัวดีไม่จับเป็นก้อน แล้วค่อยตั้งไฟ กวนด้วยไฟอ่อนจนส่วนผสมข้นขึ้นเล็กน้อย คนต่อไป จนเดือด ปิดไฟยกลงพักไว้ค่ะ

ปล. - ความหวาน เพิ่ม- ลดได้
       - มะพร้าวอ่อน ไม่ใส่ก็ได้
       - รสชาด สี เปลี่ยนได้ตามชอบ
       - ความเหนียว ขึ้นอยู่กับการกวน
       - สูตรนี้ขนมจะนิ่ม ถ้าใส่ตู้เย็น จะหนึบขึ้นกินอร่อยขึ้น
       - ถ้าชอบเนื้อแข็งหน่อย ให้ตัดน้ำออก เหลือ 800 กรัมพอ

แฮะๆๆ ขออนุญาตลอกมาลงไว้เลยนะคะ  ปล. อ่ะ  ขอบคุณค่ะ

เสร็จแล้วทานได้
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ 
แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้า (ไม่รู้จะนานแค่ไหน 55  ยังมีดองไว้อีกหลายอย่างที่ทำไว้ บางอย่างก็หาสูตรไม่เจอแล้วไม่รู้ไปเก็บไว้ไหน 55  ต้องหาเวลาโพสต์เก็บไว้ดูให้ได้)

ขอให้มีความสุขและสนุกกับการทำขนมไทยนะคะ

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

หมั่นโถวเผือก

วันนี้จะมากำจัดเผือก ที่ต้มแล้วแช่ฟรีทไว้ถามคนช่วยกินว่าจะกินหมั่นโถว หรือจะกินขนมปังบอลลูนเผือก ได้คำตอบกินซาลาเปา อืมๆๆๆ คำตอบ สูตรก็ประยุกต์มาจากหมั่นโถวมันเทศที่เคยทำค่ะ และวิธีขึ้นรูปดอกกุหลาบจาก Mama Cheang ค่ะ  ที่จริงตั้งใจก็อปสูตรเลยแต่เผือกที่มีอยู่มันไม่พอ เลยลองเสี่ยงทำดู ออกมานุ่ม หวานน้อยอร่อยดีค่ะ มาดูสูตรดีกว่า
ส่วนผสม
1. แป้งสาลีอเนกประสงค์   125 กรัม
2. แป้งเค้ก  (บัวแดง)  125 กรัม
3. ผงฟู 1 ชช.
4. ยีสต์แห้ง  6  กรัม
5. น้ำอุ่น  100 กรัม (เพิ่มตอนนวดอีก 1 ชต.)
6. น้ำตาลทรายขาว  100 กรัม
7. เผือกนึ่ง (บดละเอียดตามชอบ)  163 กรัม ก็มันเหลือเท่านี้ จริงๆตั้งใจจะใส่ 250 กรัมค่ะ ไว้ครั้งต่อไปจะลองใส่ ที่ 250 กรัม
8. น้ำมันพืช (ใช้คาร์โนล่า ครั้งนี้)  2 ชต.
9. เกลือ 1/8 ช้อนชา
วิธีทำ
1. น้ำ+ น้ำตาล 1 ชต.แบ่งมา + ยีสต์ ใส่ลงไปคนให้เข้ากัน พักไว้ 10 นาที
2. บดเผือกนึ่ง กับน้ำตาลทรายด้วยซ่อมให้เข้ากันเตรียมไว้ ( ตาชอบแบบไม่ละเอียดมาก ใครชอบละเอียดมากเอาไปปั่นได้เลยค่ะ)
3. ของแห้งที่เหลือทั้งหมด ร่อนรวมกัน 3 ครั้ง ทำหลุมตรงกลาง ใส่ยีสต์ที่พักได้ที่แล้วลงไป คนให้เข้ากัน จนหมดผงแป้ง  ใส่เผือกบดกับน้ำตาลลงไปนวดให้เข้ากัน แล้วค่อยเติมน้ำมัน นวดต่อจนเนียนนุ่ม แต่ไม่ถึงกับขึงเป็นฟิล์มได้
4. รวบแป้งเป็นก้อนกลม พักในกะละมังทาด้วยน้ำมัน เอาผ้าชุบน้ำปิดทับไว้ 45--60 นาที หรือจนแป้งจะขึ้นเป็น 2 เท่า
5. ครบเวลา เทแป้งที่พักไว้ออกมาตัดเป็นก้อน ก้อนละ 60 กรัม ทำก้อนกลมธรรมดา ก้อนละ 20 กรัม สำหรับดอกกุหลาบ ใช้ 5 ก้อน ต่อ 1 ดอก ก้อน 60 กรัมก็คลึงกลมธรรมดา แล้วรองด้วยกระดาษ ส่วนดอกกุหลาบ ก็ปั้นเป็นก้อนกลมแล้วคลึงเป็นแผ่นกลมบาง วางเรียงซ้อนกัน 4 แผ่น แผ่นสุดท้ายคลึงกลมบางแล้วม้วนให้เป็นหลอด ทำเป็นกลีบในสุด วางทับไว้ตรงกลีบแผ่นสุดท้าย แล้วม้วนจากกลับในสุดไปหากลีบแรก ม้วนเป็นทรงกระบอก คลึงให้ยาวออกมาอีกหน่อย แล้วตัดตรงกลาง เราจะได้กุหลาบ 2 ดอก เอาไปวางบนกระดาษ จัดแต่งกลีบเล็กน้อย พักแป้งไว้ 20- 45 นาที จนขึ้นเป็น 2 เท่า  หาผ้าคลุมด้วยนะ
6. ก่อนครบเวลาพักแป้งรอบ 2  ก็ไปตั้งซึ้งตัมน้ำเตรียมนึ่งได้เลย ครบเวลาพักแป้ง เอาแป้งนึ่ง น้ำเดือดพล่าน ไฟกลางค่อนข้างแรง ( พอดีเตาแก็สที่บ้านเป็นแบบหัวเร่ง เลยใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรง เพราะเคยนึ่งไฟแรงแล้วน้ำพุ่งขึ้นมาเปียกกระดาษรองแฉะไปเลยค่ะ แต่โดยทั่วไปนึ่งไฟแรงค่ะ) นึ่งนาน 20-25 นาที (ครบเวลาปิดแก๊ส ยังไม่ต้องเปิดฝาทิ้งไว้อย่างนั้น 2 นาที เปิดฝา วางไว้บนซึ้งอีก 2-3 นาที กันหน้าเค้ายุบตัวเพราะอุณหภูมิเปลี่ยนเร็วเกินไป
7.  ยกลงเอาออกมาพักบนตะแกรงพร้อมเสริฟแล้ว  จะเสริฟร้อน หรือเย็นตามชอบค่ะ  พอเย็นก็เอาเก็บใส่กล่อง ใส่ถุงพลาสติกแล้วแช่ฟรีทเก็บไว้กินวันหลังก็ได้ค่ะ เวลาจะกินก็เอาออกมานึ่งหรือเวฟแบบนึ่งตามถนัดเลยค่ะ
เสร็จแล้วค่ะ หมั่นโถวเผือก นุ่มๆ หวานน้อย อร่อยๆ ค่ะ
ขอให้มีความสุขและสนุกกับการทำขนมนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ