วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Red Velvet Crinkle Cookies

คุกกี้กำมะหยี่สีแดง
สูตรประยุกต์มาจากสูตรของคุณพลและคุณ Sally ค่ะ อันนี้ทำเกินออเดอร์ คุณลูก มาดูสูตรกันดีกว่า
1. แป้งสาลีเอนกประสงค์  198 กรัม (1 1/2 ถ้วย กับอีก 1ชต.)
2. ผงโกโก้ 40 กรัม
3. เบกกิ้งโซดา 1/2 ชช.
4. ผงฟู 1 ชช.
5. เกลือ 1/4 ชช.
6. เนยจืดที่อุณหภูมิห้อง 117 กรัม ( 1/2 ถ้วย)
7. น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
8. น้ำตาลทรายขาว 20 กรัม
9. ไข่ # 2  2 ฟอง
10. นมหรือบัตเตอร์มิลค์ 1 ชต.
11. เซมิสวีทช้อกโกแลตชิพ
180 กรัม (1 ถ้วย)
12. กลิ่นวนิลาบัตเตอร์ 2 ชช.( หมดมีแค่ 1 ชช.เลยใสกลิ่นวนิลาธรรมดาลงไปผสมแทน)
13. สีผสมอาหารสีแดง 1-1 1/2 ชช.
14. น้ำตาลทราย สำหรับคลุกก่อนอบ
15. น้ำตาลไอซิ่ง สำหรับคลุกก่อนอบ
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบ 180 องศาซีไฟบนล่างรอไว้ (เตาเราต้องไฟล่างอย่างเดียว)
2. ร่อนแป้ง ผงโกโก้ ผงฟู เกลือ เบกิ้งโซดาเข้าด้วยกันสัก 3 ครั้ง พักไว้
3. ตีเนยจนอ่อนตัวเติมน้ำตาล ตีจนฟูเนียนขาว เติมไข่ทีละฟองตีต่อจนเข้ากันเติมกลิ่นตีต่อจนฟูขาว ใส่สีตีต่อจนเข้ากัน
4. เติมแป้งลงไปตีต่อด้วยสปีดต่ำ ตามด้วยนม ตีจนเข้ากันอย่านาน
5. ปิดเครื่อง เติมช้อกโกแลตชิพ คนๆตะล่อมให้เข้ากัน  ปิดแรปเอาเข้าตู้เย็น 2 ชม.หรือหนึ่งคืน
6. ครบเวลาพักในตู้เย็นเอาสคูปไอศครีมต้กเป็นก้อนๆ จะได้ก้อนละเท่าๆกัน แล้วเอามาปั้นเป็นก้อนกลมบนมือ เอาไปคลุกน้ำตาลทราย แล้วตามด้วยไอซิ่ง ให้ทั่วๆ เอาไปวางบนถาดที่ปูด้วยกระดาษไข ห่างกันประมาณ 2 นิ้ว เผื่อเวลาคุกกี้ขยายตัวด้วย ทำซ้ำจนหมด  คุกกี้ที่เหลือ ก็จัดการปั้นใส่ถาดรอได้เลย พอถาดแรกได้ก็ใส่ถาดที่ 2 เข้าไปได้เลยค่ะ
7. เอาเข้าอบ 12 นาที  ไฟ 180 องศาซี จะได้คุกกี้กรอบนอกนุ่มในนิดๆ แต่ถ้าชอบกรอบๆ อบต่อแล้วใข้ไม้จิ้มฟันเช็คสุกจิ้มดูถ้าไม่มีแป้งติดมา ใช้ได้ค่ะ
8. สุกแล้วเอาออกจากเตาพักไว้ 5 นาที ค่อยแซะออกมาผึ่งบนตะแกรงจนเย็นเก็บใส่กล่องค่ะ พร้อมแจกเป็นของขวัญปีใหม่
 

ขอบคุณที่ติดตาม
ขอให้มีความสุข และสนุกกับการทำขนมนะคะ

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Pineapple Upside Down Cake

อัพไซด์ดาวน์เค้กสับปะรด
อยากทำมานานแล้ว ได้โอกาสเลยจัดการทำซะ สูตรและวิธีทำดัดแปลงมาจากสูตรของแม่ปู แม่ครัวจอมมั่วนิ่ม ค่ะ เค้กออกมานุ่มมาก ขอบคุณแม่ปูและแม่ครัวจอมมั่วนิ่มมากๆค่ะที่นำสูตรและวิธีทำดีดีมาแบ่งปันค่ะ เค้กหวานไม่มากเพราะลดน้ำตาล ครั้งนี้ ทำ  2 แบบเปรียบเทียบกันว่าแบบไหนจะอร่อยกว่ากันคือแบบใช้คาราเมลกับแบบใช้น้ำผึ้งค่ะ ออกมาแบบใช้คาราเมลจะหอมเนยและน้ำตาลไหม้ ส่วนอีกแบบก็หอมน้ำผึ้งมากๆๆ สรุป อร่อยทั้งคู่ เพราะตัวเค้กสูตรเดียวกัน มาดูสูตรกันเลยค่ะ
ส่วนผสมแบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ
I. ส่วนของหน้าคาราเมล
1. น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม ตาใช้ 2 อย่างผสมกัน (ต้นฉบับ 100 กรัม)
2. เนยเค็ม 25 กรัม (ต้นฉบับ 30 กรัม)
3. น้ำสับปะรด 2 ชต. (ใช้น้ำสับปะรดกระป๋องที่รินอิกนั่นแหละ)
4. เชอรี่เชื่อม 7 ผล (ไม่มีไม่ได้ใช้)
5. สับปะรดกระป๋อง 7 วง (ใช้แค่ 6 วง เพราะทำพิมพ์เล็กกว่า)
6. อัลม่อนบด 1 ชต. (ลืมใส่)
ก่อนลงมือทำ
- เตรียมพิมพ์ทาเนยให้ทั่วๆ พักไว้ - เทสับปะรดกระป๋องออกใส่ตะแกรง รองน้ำไว้ ตัวสับปะรดผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- อุ่นเตาอบ 350ํ ฟาเรนไฮ หรือ 180ํ เซลเซียต
แล้สมาทำหน้าคาราเมล
วิธีทำ
1. เอาเนยใส่หม้อ ตั้งไฟพอละลายเติมน้ำตาลลงไป คนพอเข้ากัน เติมน้ำสับปะรดลงไปแกว่งๆหม้อให้นำตาลละลาย สีเข้มตามต้องการ
2. ได้สีตามต้องการแล้ว ไม่ต้องเข้มมาก เอาออกจากเตาแล้วเทลงพิมพ์ที่ทาเนยเตรียมไว้ (ห้ามไปจับพิมพ์นะขอบอกร้อนมากๆ) พักไว้จนเย็น
3. เมื่อคาราเมลเย็นแล้วก็เรียงสัยปะรดลงไป ตามชอบ พักไว้
ถ้าใข้น้ำผึ้งก็ไม่ต้องทำอะไรเทน้ำผึ้งใส่พิพม์ที่ทาเนยไว้ มากน้อยตามชอบ แล้วก็เรียงสับปะรดลงไป โรยด้วยอัลม่อนป่่นเสร็จ

ส่วนที่ II ตัวเค้ก
1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 120 กรัม
2. แป้งเค้ก 30 กรัม
3. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม (ต้นฉบับ 150 กรัม) แบ่งมา 1 ชต.เอามาตีกับไข่ขาว
4. เนยจืดที่อุณหภูมิห้อง 113 กรัม
5. ไข่แดงไข่ไก่ เบอร์ 1  2 ฟอง (มีเบอร์ 2 เลยใส่ไป 3 ฟอง)
6. ไข่ขาวไข่ไก่เบอร์ 1  2 ฟอง (มีเบอร์ 2 ใส่ไป 3 ฟอง)
7.  บัตเตอร์มิลค์ 1/2 ถ้วย (ไม่มีใช้นมสดรสจืด 120 กรัม ผสมกับน้ำมะนาว 1/2 ชต.คนให้เข้ากันพักไว้)
8. ผงฟู 1 ชช.
9. เบกกิ้งโซดา 1/2 ชช.
10. เกลือ 1/2 ชช.
11. กลิ่นวนิลา 1 ชช.
วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง+เกลือ+ผงฟู+เบกกิ้งโซดา สัก 3 รอบ พักไว้
2. ผสมบัตเตอร์มิลค์ทำเอง พักไว้
3. ตีเนยที่อุณหภูมิห้องจนอ่อนตัวขึ้นฟู ด้วยสปีดต่ำแล้วไล่ไปกลาง
4. ค่อยๆ เติมน้ำตาลจนหมด ตีต่อจนเป็นครีมขาว( ปาดอ่างเป็นระยะๆด้วยนะ ) แล้วค่อยเติมไข่แดงลงไปทีละฟอง ตีจนเข้ากันก่อนแล้วค่อยใส่ฟองต่อไป
5. หมดไข่แล้ว เติมกลิ่นวนิลาลงไปตีต่อจนเข้ากัน
6. ค่อยแบ่งแป้งเติมลงไป เวลาใส่แป้งให้ลดสปีดลงเป็นสปีดต่ำ ตีพอเข้ากันแบ่งบัตเตอร์มิลค์ใส่ลงไปตีจนเข้ากัน ทำสลับกันจนหมดแป้ง เริ่มด้วยแป้ง จบด้วยแป้งค่ะอย่าตีนานเสร็จแล้วพักไว้
7. หันมาตีไข่ขาว เปลี่ยนหัวตีเป็นหัวตีตะกร้อ ใส่เกลือ หรือน้ำมะนาวลงไปหน่อยตีจนเป็นฟองหยาบ แล้วค่อยเติมน้ำตาลลงไป ตีจนตั้งยอดอ่อน
8. แบ่งไข่ขาวที่ตีไว้มาใส่ลงในชามแป้งใช้ตะกร้อมือ หรือพายยางตะล่อมให้เข้ากัน แบ่งใส่สัก 3 ครั้ง เสร็จ
9. เทใส่พิมพ์ กระแทกไล่ฟองอากาศหน่อยเอาเข้าอบ เตาตาต้องใช้ไฟล่างก่อน  30 นาทีแล้วเปลี่ยนเป็นบนล่างต่อจนสุก (ต้นฉบับอบไฟบนล่างค่ะ)
10.เช็คสุกโดยใช้ไม้ปลายแหมจิ้มลงไปตรงกลางแล้วดึงออกมาถ้าไม่มีเศษแป้งติดขึ้นมาแสดงว่าสุกแล้วค่ะ เอาออกมา กระแทกโต๊ะสักครั้งหนึ่งพักไว้ 10 นาทีค่อยเอาออกจากพิมพ์ค่ะ (บางคนจะใช้ฟรอยด์มาปิดหน้าเค้กที่พักไว้ด้วยค่ะ ตาลืม)
11. เวลาเอาเค้กออกให้เอาจานใบใหญ่กว่าพิมพ์ มาปิดทับแล้วกลับเร็ว ระวังร้อนนะ แล้วเคาะเบาๆ เค้กก็จะหลุดออกจากพิมพ์ มีหน้าสับปะรดอยู่ด้านบน พร้อมเสริฟ
ขอบคุณที่ติดตาม
ขอให้มีความสุขและสนุกกับการทำขนมนะคะ